Moto Parilla บุกตลาดให้คนไทยภายใต้แนวคิด “ Scooter Classic never died ” ผู้ที่จองในงานจะได้ราคาแนะนำที่พิเศษที่สุดไม่ถึงหลักแสน เผยตั้งเป้าจำหน่ายปีแรกที่ 1,200 คัน
นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโต พาริลล่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากแรงบันดาลใจที่ตนเองเป็นคนที่ชอบขับรถจักรยานยนต์อยู่แล้ว จนได้มีโอกาสพบ มร. ซีโน่ ดีไซเนอร์ชื่อดังเจ้าของแบรนด์รถจักรยานยนต์พรีเมี่ยมคลาสสิค “ Moto Parilla ” สัญชาติอิตาลี จึงตัดสินใจลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ตั้งบริษัท ฯ โชว์รูม เพื่อจำหน่ายรถจักกรยานยนต์แบรนด์ดังกล่าว โดยวางตำแหน่งสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ให้สามารถเป็นเจ้าของในราคาที่สัมผัสได้ ภายในแนวคิด "ความมีระดับ ที่สัมผัสได้ " โดยจะเปิดให้จองอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2 รุ่น คือ ขนาด 150 ซีซี รุ่นโมโนโทน สีล้วน และรุ่นท้อป ทูโทน ในราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 69,900 บาท เฉพาะในงาน Motor Expo ครั้งนี้เท่านั้น
“ ผมรู้สึกว่ามันใช่เลย ด้วยรูปทรงรถ ด้วยตำนานของเค้า คนที่นิยมรถแบรนด์นี้จะทราบว่า ราคาจริงหลายแสน แต่ผมสามารถทำรถจักรยานยนต์ให้ดูดีมีระดับ และให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย ในราคาไม่ถึงแสน ด้วยขนาดเครื่องยนต์ถึง 150 ซีซี ใช้ได้ทั้งชายและหญิง ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา ไปถึงคนวัยทำงาน ที่มีความชื่นชอบรถจักรยานยนต์สไตล์คลาสสิค หรือแม้กระทั่งกลุ่มที่ชอบตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เพราะสามารถตกแต่งลวดลาย หรือสีสันตามที่ลูกค้าชื่นชอบ ผมชอบทำธุรกิจอยู่แล้วจึงมั่นใจว่าแบรนด์นี้ไปได้แน่นอน จะเห็นได้จากสถิติการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย พบว่า เป็นรถ scooter สูงถึง 45% นอกจากนี้ ในอนาคตเราจะสร้างเป็น Scooter Club จัดกิจกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์อย่างสร้างสรรค์ร่วมกันต่อไป ” นายรัฐภูมิกล่าว
นายรัฐภูมิ กล่าวถึงรูปแบบธุรกิจว่า จะเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนรถมาประกอบที่โรงงานของ เดอะ สตาเลียน แบรนด์มอเตอร์ไซค์ของคนไทย แต่ระบบการประกอบ การดูแลหลังการขาย จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขากบริษัทแม่ต้นสังกัด Moto Parilla ส่วนแผนธุรกิจ จะเริ่มต้นด้วยการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ Motor Expo บูธ จี 12 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคมนี้ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี เพื่อนำเสนอและเปิดจองและรับสินค้าหลังจบงาน 30 วัน
พร้อมกันนี้ อยู่ระหว่าง แต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย การสร้างพันธมิตร ไฟแนนซ์ ดีลเลอร์ รวมถึงลูกค้า การจัดกิจกรรมการตลาด การบริการดูแลหลังการขาย ในส่วนของ สำนักงานใหญ่ และโชว์รูม คาดว่าจะเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 300 ตารางวา ใจกลางห้าแยกวัชรพล ในสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์ ติดตั้งระบบโซล่าเซล พลังงานประหยัด และจะเป็นสถานีทดลองชาร์ตของรถไฟฟ้าที่ใช้โซล่าเซลล์แห่งแรกของประเทศไทย ระหว่างนี้จะใช้ศูนย์บริการหลังการขายของ เดอะ สตาเลี่ยนในกรุงเทพและปริมณทล ด้วยบริการรถเคลื่อนที่ 24 ชั่วโมง แจ้งตรงทาง call center ของศูนย์ Moto Parilla
นอกจากนี้ บริษัท โมโต พาริลล่า จำกัด โดย มร. เซโน่ ยังเตรียมใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งก็ตรงกับนโยบายของ เดอะ พาวเวอร์ สตาเลี่ยน ที่ต้องการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างชาติที่สนใจ เพื่อยกระดับมาตรฐานโรงงานทั้ง 2 แห่ง ทั้งชลบุรี และที่สมุทรปราการ ให้มีศักยภาพการผลิตและรองรับการขยายการเติบโตได้อีกในอนาคต
แวะชม โมโต พาริลล่า ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ Motor Expo กัน