ฮอนด้า แอคคอร์ด ขุมพลัง 1.5 เทอร์โบ 190 แรงม้า เติม Honda SENSING ด้วยราคาค่าตัว 1,499,000 บาท
VIDEO
ฮอนด้า แอคคอร์ด นับเป็นรถยนต์ที่สำคัญรุ่นหนึ่งของฮอนด้า ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก รวมถึงลูกค้าชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีบทบาทในฐานะรถยนต์ที่เป็นผู้นำ ในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด และมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง โดย ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 นับเป็นยนตรกรรมแฟลกชิปพรีเมียมซีดานของฮอนด้า ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีระดับพรีเมียมอย่างครบครัน ด้วยการเพิ่มเติมอุปกรณ์มาตรฐานและฟังก์ชันเพื่อความสะดวกสบาย รวมทั้งติดตั้ง “ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ” (Honda SENSING) เป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกรุ่นย่อย เพื่อมอบความสมบูรณ์แบบ ตอกย้ำตำแหน่งของผู้นำด้านยนตรกรรมพรีเมียมซีดาน ที่พร้อมพาคุณมุ่งสู่ทุกเส้นทางแห่งผู้นำที่คุณเชื่อ
ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 พัฒนาผ่านแนวคิด Absolute Confidence เพื่อมุ่งสร้างความมั่นใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ทั้งในด้านการขับขี่และการได้เป็นเจ้าของ โดยมุ่งเน้นพัฒนา ใน 3 ด้านหลักๆ ได้แก่
1) Dynamics – ความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว ทั้งในด้านดีไซน์ และสมรรถนะการขับขี่
2) Captivating – ความมีเสน่ห์และน่าดึงดูดของรถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
3) Upscale – ยกระดับคุณภาพการพัฒนายนตรกรรมให้สง่างาม และเหนือระดับเกินคลาส
ด้วยความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ทำให้ ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 เป็นยนตรกรรมพรีเมียมซีดานที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น และเป็น ฮอนด้า แอคคอร์ด ที่โดดเด่นมีสไตล์ที่สุด พรีเมียมที่สุด และมาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่สปอร์ตเร้าใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ELEGANT EXTERIOR DESIGN
ดีไซน์ภายนอก
ฮอนด้า แอคคอร์ด มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ผสานความหรูหราสง่างามกับความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว ผ่านการออกแบบที่เรียบหรูแต่ประณีตในทุกรายละเอียด ด้วยเส้นสายที่ปราดเปรียวและเฉียบคม สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียมอย่างเหนือระดับ โดยทุกรุ่น มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียมที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้าย แบบ LED ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไว้ได้อย่างชัดเจน เสริมความสปอร์ตด้วยท่อไอเสียคู่ พร้อมปลอกท่อไอเสียสเตนเลส มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว
CRAFTED INTERIOR DESIGN
ดีไซน์ภายใน
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบอย่างประณีต ผสมผสานความสปอร์ตพรีเมียมไว้อย่างลงตัว ผ่านการใช้โครงสร้างเส้นสายในแนวนอน เพื่อทำให้บริเวณคอนโซลกลางโปร่งโล่ง อีกทั้งมอบทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ประกอบกับการออกแบบโครงสร้างที่มีจุดศูนย์ถ่วงของเบาะที่นั่งต่ำ ส่งผลให้มีพื้นที่ช่วงขามาก สะดวกสบายเหนือระดับกับห้องโดยสารที่โอ่โถง กว้างขวาง มาพร้อมเบาะหนังและชุดตกแต่งภายในลายไม้ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์แห่งความหรูหรา ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานเพื่อสุนทรียภาพในทุกการเดินทาง ได้แก่
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น - ลงรถ (Memory Seat with Easy Entry/Exit)
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับได้ มาพร้อมพนักเท้าแขนด้านหลังแบบเปิดผ่านห้องสัมภาระท้าย
PREMIUM COMFORT FEATURES
เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัยระดับพรีเมียม
สู่ทุกจุดหมายด้วยความสะดวกสบายเหนือระดับ พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าด้วยหลากหลายฟังก์ชันและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก ได้แก่
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่ม รับ - วางสายโทรศัพท์ รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri พร้อมปุ่มควบคุมระบบการทำงานที่อยู่ใน Honda SENSING ได้แก่ ACC with LSF และ LKAS
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย / ขวา พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ (Auto Dimming Rearview Mirror)
ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง (Rear Door Window Sunshades)
กระจกไฟฟ้านิรภัยพร้อมระบบ One-touch 4 ตำแหน่ง (All One-touch Safety Power Windows)
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) โดยสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์และสั่งการเปิดเครื่องปรับอากาศได้จากระยะไกล เพื่อเตรียมพร้อมบรรยากาศที่ผ่อนคลายก่อนออกเดินทาง
ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
• ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ( ทุกรุ่น) เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ และเพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง ประกอบด้วย 5 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก ได้แก่
ฟังก์ชันสถานะรถยนต์ ช่วยแจ้งสถานะความพร้อมและความผิดปกติของรถยนต์และระบบต่างๆ ของรถยนต์เมื่อเปิดสวิตช์กุญแจก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ได้แก่
ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่
อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น
ระบบไฟฟ้า
ระบบเบรก
การแจ้งเตือนการบำรุงรักษา เพื่อให้ผู้ใช้ได้ดูแลรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งสามารถเรียกดูได้ทั้งประวัติการเข้ารับบริการและกำหนดการเข้ารับบริการครั้งถัดไป
ฟังก์ชันข้อมูลลักษณะการขับขี่ ที่จะบันทึกข้อมูลการขับขี่และแสดงผลพฤติกรรมการขับขี่ต่างๆ ที่สามารถ
ให้แสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี ประกอบด้วย
ระยะทางการขับขี่
ช่วงเวลาการขับขี่
อัตราความเร็วสูงสุด
อัตราความเร็วเฉลี่ย
การเบรกและการเร่งกะทันหัน
การบันทึกประวัติการเดินทางในแต่ละครั้ง โดยสามารถตั้งค่าให้เป็นทริปโปรด และสามารถแชร์บนโซเชียลมีเดียส่วนตัวได้อีกด้วย
ฟังก์ชันตรวจสอบพิกัดรถยนต์
สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ (Find My Car) โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงพิกัดรถยนต์ หรือสายไฟแบตเตอรี่ของรถยนต์ถูกตัด ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติมาที่ฟังก์ชันสถานะพิกัดรถยนต์ในแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ ที่กำหนดไว้ (Geo Fence)
4) ฟังก์ชันติดต่อเพื่อช่วยเหลือฉุกเฉิน
เมื่อถุงลมทำงานในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งสัญญาณไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า (Honda Call Center) เพื่อติดต่อและประสานงานให้ความช่วยเหลือไปยังเบอร์โทรที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรสำรองฉุกเฉิน หากไม่สามารถติดต่อได้ ระบบจะทำการติดต่อหน่วยบริการการช่วยเหลือฉุกเฉิน (1669) เพื่อให้เข้าช่วยเหลือทันที
ในกรณีเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่ฟังก์ชันเบอร์โทรสำคัญสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า สถานีตำรวจ รถพยาบาล บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รวมทั้งบริษัทประกันภัย เพื่อบริการประสานงานความช่วยเหลือฉุกเฉิน ซึ่งสามารถแก้ไขและตั้งค่าได้ตามความต้องการ
ฟังก์ชันค้นหาและแชร์การเดินทาง ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันแผนที่ เพื่อค้นหาเส้นทางหรือสถานที่ใกล้เคียง โดยสามารถทำการบันทึกสถานที่ที่ใช้ประจำ เพื่อช่วยในการนำทางไปยังจุดหมายได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถแชร์บันทึกการเดินทางพร้อมภาพถ่ายบนโซเชียลมีเดียส่วนตัว และรายละเอียดอื่นๆ ประกอบด้วย
แสดงพิกัดรถยนต์
สถานที่ใช้งานประจำ
ผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า
สถานีบริการน้ำมัน
ตู้เอทีเอ็ม
ร้านสะดวกซื้อ
POWERFUL DRIVING TECHNOLOGY
นวัตกรรมการขับเคลื่อนแห่งอนาคต
ฮอนด้า แอคคอร์ด มาพร้อมกับ ขุมพลังการขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง ได้แก่
รุ่น EL ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิด 243 นิวตัน - เมตร จากเทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน (Direct Injection) ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ (Turbocharger) ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ขับสนุก มอบอัตราเร่งที่ทันใจ และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร / ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับน้ำมัน E85
สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ยนตรกรรมพรีเมียมได้อย่างมั่นใจ หมดกังวลด้านการบำรุงรักษา
เสริมความมั่นใจในการขับขี่ ฮอนด้า แอคคอร์ด ทุกรุ่น ด้วยการมอบแคมเปญพิเศษด้านการบริการหลังการขาย ได้แก่
ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร * ( อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร ( อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะเวลา 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร * รวมเริ่มต้นเพียง 23,621 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำที่สุดในตลาด D-Segment
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ติดตั้งเป็นมาตรฐานความปลอดภัย ใน ฮอนด้า แอคคอร์ด ทุกรุ่นย่อย
ผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่และช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ซึ่งมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบที่ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วของรถเมื่อมีรถคันข้างหน้า รถสวนทาง หรือคนเดินถนนอยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนองหรือในกรณีที่อยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกให้อัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องและเรดาร์ตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสมและในการขับขี่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ภายในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW) ระบบที่ใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางจนอาจเกิดอุบัติเหตุ ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็ว ( ในกรณีที่เส้นแบ่งถนนเป็นเส้นทึบ ) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) เป็นระบบปรับไฟสูง- ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือมีรถยนต์ด้านหน้า
SAFETY & DRIVING TECHNOLOGY
เทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย สู่เส้นทางแห่งผู้นำที่คุณเชื่อ
ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม ได้แก่
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ที่ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย โดยจะใช้กล้องในการจับภาพและแสดงผลผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ( ทุกรุ่น)
กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในจังหวะที่เกียร์ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ( เฉพาะรุ่น EL และ รุ่น e:HEV EL+)
• ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) โดยระบบจะตรวจจับความเหนื่อยล้า ของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัย และแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT หากประสิทธิภาพในการควบคุมรถของผู้ขับขี่ลดน้อยลงจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและทำการสั่นเตือนที่พวงมาลัย ( ทุกรุ่น) และยังครบครันด้วย มาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัยในทุกรุ่น ได้แก่
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) เพียงใช้นิ้วดึงสวิตช์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลางเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่ง ( ระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เท่านั้น)
ระบบ Brake Hold อัตโนมัติ (Auto Brake Hold) เมื่อกดปุ่มเปิดให้ระบบทำงาน ระบบจะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติ หลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัว โดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่ง ( ระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เท่านั้น)
โครงสร้างตัวถังนิรภัย (G-Force Control: G-CON) ออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยให้กับตัวรถ รวมทั้งลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับรถคันอื่น ในกรณีที่เกิดการชนทางด้านหน้า โครงสร้างตัวถังแบบ
G-CON จะช่วยกระจายแรงที่เกิดขึ้นจากการชนไปยังส่วนที่มีพื้นที่ที่กว้างกว่า ในขณะเดียวกันนั้นยังลดโอกาสของการโค้งงอ เนื่องจากชิ้นส่วนโครงสร้างจะช่วยดูดซับแรงกระแทกของรถคันอื่น
• ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbag) และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) โดยระบบป้องกันล้อล็อกจะช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกในระหว่างที่มีการเบรกกะทันหัน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถและหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ขณะที่ระบบกระจายแรงเบรกถูกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ให้ความสมดุลกับน้ำหนักในการบรรทุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก
ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA) ช่วยป้องกันการลื่นไถลออกทางด้านข้าง เพิ่มการยึดเกาะถนน และให้ความมั่นใจในระหว่างการขับ การเลี้ยว หรือการหยุด และให้การทรงตัวที่ดีของรถยนต์ในทุกทิศทาง
ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA) เมื่อรถยนต์จอดอยู่บนทางลาดชัน ระบบจะทำหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้ตัวรถเคลื่อนที่ไปทางด้านหลังในจังหวะที่มีการปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรก โดยการทำงานจะอาศัยหน้าที่ในระบบการทรงตัวเข้ามาควบคุมการรักษาแรงดันของน้ำมันเบรกเอาไว้ ทำให้รถสามารถหยุดนิ่งในตำแหน่งเดิมได้ประมาณ 1 วินาที ขณะที่มีการเคลื่อนย้ายเท้าจากเบรกมาที่คันเร่ง และช่วยให้การออกตัวมีความนุ่มนวลมากขึ้น
สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal - ESS) สัญญาณไฟฉุกเฉินจะทำงานเมื่อมีการเหยียบเบรกกะทันหัน เป็นการแจ้งเตือนรถที่ตามมาข้างหลัง
ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
รุ่นและราคา
ฮอนด้า แอคคอร์ด Turbo EL ได้แก่
รุ่น EL ราคา 1,499,000 บาท
สี
ฮอนด้า แอคคอร์ด มาพร้อมสีภายนอกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเทาเมทิเออรอยด์ ( เมทัลลิก ) สีขาวแพลทินัม ( มุก ) และ สีดำคริสตัล ( มุก ) ที่มาพร้อมสีภายในห้องโดยสารสีน้ำตาล และสีเงินลูนาร์ ( เมทัลลิก ) ที่มาพร้อมสีภายในห้องโดยสารสีดำ
สัมผัสกับ ฮอนด้า แอคคอร์ด ได้ที่โชว์รูมฮอนด้า โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้า หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th ติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร. 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/accord
หมายเหตุ:
- อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- สีภายในแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีภายนอก
- สีขาวแพลทินัม ( มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล ( มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
- ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%