เอ็มจี เปิดตัว NEW MG HS เบนซินเทอร์โบ และ NEW MG HS PHEV ปลั๊กอินไฮบริด Plug-in Hybrid
กรุงเทพฯ – 21 มีนาคม 2565 - บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด REFINEMENT โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมรูปโฉมใหม่ที่ผสานความหรูหราทันสมัยและความสปอร์ตอย่างลงตัว ติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง 26 ระบบ และฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน โดยมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ และ ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid)
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV
REFINED EXTERIOR:
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV โฉมใหม่ล่าสุด ยกระดับคุณค่าด้านการออกแบบให้มีความโดดเด่น และทันสมัย ผสานทั้งความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัว ด้วยเส้นสายของตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนสมบูรณ์แบบของตัวรถ พร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่คงเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจี
-
มิติตัวถัง 4,574 x 1,876 x 1,664 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
-
ระยะช่วงล้อ 2,720 มิลลิเมตร
-
กระจังหน้า DNA ใหม่ สี 2-Tone ดีไซน์ Digital Burning Grille
-
กันชนหน้า กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมท่อไอเสียคู่
-
ไฟหน้าแบบ QUAD LED Projector
-
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
-
ไฟท้ายแบบ Full LED
-
ไฟ Welcome Light
-
สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา
-
ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมสั่งการผ่านทางรีโมทคอนโทรล
-
ล้ออัลลอยด์ BI-COLOUR ดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว
REFINED INTERIOR & UTILITY:
ภายในห้องโดยสารของ NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV ตกแต่งด้วยสี 2-Tone Monaco Blue ใช้วัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch ให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมี่ยมในทุกรายละเอียด พร้อมฟังก์ชั่นที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและคุณค่าระหว่างการขับขี่ที่ครบครัน
-
ภายในมีทั้งสีดำ และ 2-Tone ขาว - น้ำเงิน
-
เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ใช้วัสดุ Alcantara
-
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
-
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
-
หลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่
-
Interactive Ambient Light ในห้องโดยสาร ปรับได้ 64 เฉดสี
-
หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว
-
หน้าจอกลาง แบบ Multi-Function Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
-
ระบบเสียง Surround เหนือระดับ กับ BOSE 8.1 Sound System
-
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual Zone
-
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
-
ระบบกรองอากาศ PM 2.5
-
กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ
-
ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
-
NVH Luxury Silence Space และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร
-
ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Andriod
REFINED PERFORMANCE & EFFICIENCY:
NEW MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ผสานกำลังระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ขับขี่อย่างต่อเนื่องได้ด้วยระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที และสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ได้ถึง 67 กิโลเมตร
-
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร
-
มอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงแบบ Hairpin Winding Technology ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร
-
ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Coolant System)
-
แบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ขนาด 16.6 kWh
-
แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย AMERICAN UL2580 และมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
-
รูปแบบการขับขี่ 5 รูปแบบ ได่แก่ โหมด EV โหมด Eco โหมด Normal โหมด Sport และโหมด Super Sport
-
ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ
-
ระบบการบริหารพลังงานไฟฟ้าและสร้างกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์กลับสู่แบตเตอรี่ (Battery Management System)
-
ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลังแบบ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลงทั้งหน้าและหลัง
-
ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
NEW MG HS มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที มีรูปแบบการขับขี่ 4 รูปแบบ ได่แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด Sport และโหมด Super Sport
REFINED SAFETY: เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยรอบคัน
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) ระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System มากถึง 26 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัย เชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถ ซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตืระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) รวมกันกว่า 12 ระบบ ได้แก่
-
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
-
ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
-
ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
-
ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
-
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
-
ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
-
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
-
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
-
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
-
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
-
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
-
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉืนอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) ที่เพิ่มเติมเข้ามาในโฉมล่าสุดนี้ เพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งกว่า
นอกจากนี้ ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบ ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
REFINED TECHNOLOGY:
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Digital Key และล่าสุดกับ AR NAVIGATION ระบบนำทางเสมือนจริง ที่จะทำให้ทุกการเดินแม่นยำมากยิ่งขึ้น
Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
-
ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ รวมถึงการค้นหาสถานีชาร์จ
-
ตรวจสอบสถานะของประตูรถ
-
ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ผ่านฟังก์ชั่น FIND MY CAR
-
ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย
-
ระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ
-
ระบบขอบเขตอิเล็คทรอนิกส์
-
ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
-
กุญแจดิจิตอล
-
ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย
-
ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
-
โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีน
-
ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน(Emergency Call)
-
ระบบ i-CALL ที่สามารถติดต่อ MG Call Centre เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับจุดน่าสนใจ (Point Of Interest) ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย
-
ค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และวางแผนการเดินทาง Travel Plan จากสมาร์ทโฟนส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้
Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
-
ระบบนำทางอัจฉริยะ แสดงเส้นทางพร้อมภาพเสมือนจริงจากกล้องหน้ารถ (AR NAVIGATION) ครั้งแรกในรถยนต์เอ็มจี กับเทคโนโลยีที่มอบความสะดวกและความแม่นยำในการขับขี่บนทุกเส้นทาง
-
ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
-
ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
-
ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
-
ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
-
อัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)
* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็นรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น C รุ่น D และรุ่น X และรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดจำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น PHEV D และ รุ่น PHEV X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีแดง (Scarlet Red)
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV จะเปิดตัวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 และที่โชว์รูมเอ็มจีทุกสาขาทั่วประเทศ
http://www.autofulltravel.com
https://www.facebook.com/autofulltravel/