บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด สานต่อโครงการ “คาราวานพลังดี...เปลี่ยนโลก” นำเครือข่าย ผู้จำหน่ายอีซูซุพร้อมขบวนรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส 4x4” รวม 10คัน ลงพื้นที่ให้กำลังใจและสนับสนุนการทำงานของ “หมอใหญ่...แห่งพงไพร” ผ่านเหล่าตัวแทนแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ที่อุทิศตนเดินป่ารักษาชาวบ้านมากว่า 30 ปีอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อให้ชาวบ้านทุกคนได้เข้าถึงการรักษาและมีสุขภาพที่ดี ตอกย้ำความเชื่อมั่นของอีซูซุที่ว่า... ไม่มีที่ใด ที่พลังความดีไปไม่ถึง
กลุ่มตรีเพชร โดย คุณวิชัย สินอนันพัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “โครงการคาราวานอีซูซุ วี-ครอส 4×4 “พลังดี…เปลี่ยนโลก” เกิดขึ้นจากความร่วมมืออันดียิ่งระหว่าง บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด สมาชิกชมรมผู้จำหน่ายอีซูซุรุ่นใหม่ และผู้จำหน่ายอีซูซุทั่วประเทศที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนพันธกิจเพื่อสังคมของกลุ่มบุคคล หรือหน่วยงานที่อุทิศตนทำคุณประโยชน์เพื่อมวลชนที่ขาดแคลนแม้แต่ปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิต และอยู่ในพื้นที่ที่ยากกว่าที่บุคคลทั่วไปจะเดินทางเข้าไปถึง พร้อมร่วมเป็นพลังสะท้อนเสียงแห่งการรับรู้ในการทำความดีของหน่วยงานนั้นๆ แก่สังคมไทย ซึ่งการเดินทางครั้งล่าสุดได้จัดคาราวานลงพื้นที่ในจังหวัดตาก เพื่อมอบรถ “อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” 4 ประตู จำนวน 1 คัน พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นและเงินสมทบกิจกรรมสาธารณประโยชน์แก่โรงพยาบาลแม่ระมาด และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลบ้านคำหวัน จังหวัดตาก มูลค่ารวมกว่า 2,000,000 บาท พร้อมส่งมอบกล่องยาสามัญประจำบ้านเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยเบื้องต้นในยามจำเป็น โดยหวังว่าน้ำใจส่วนนี้จะสามารถขับเคลื่อนพลังแห่งการเสียสละอันยิ่งใหญ่ให้คงอยู่และเจริญงอกงามต่อไปในอนาคต”
“คาราวานพลังดี...เปลี่ยนโลก” ได้ดำเนินการมาแล้วในหลายพื้นที่ เช่น โรงเรียนบ้านแม่สะเต อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทิไล่ป้า อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ล่าสุดได้ลงพื้นที่ในจังหวัดตาก ด้วยความศรัทธาในการอุทิศตนของเหล่าแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นำโดยนายแพทย์ จิรพงศ์ อุทัยศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่ระมาด จังหวัดตาก ที่นำทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่จำกัดเข้าไปรักษาชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารมากว่า 30 ปี บางพื้นที่ต้องเดินเท้านานกว่า 6 ชั่วโมง เพื่อให้ชาวบ้านทุกคนได้เข้าถึงการรักษาและมีสุขภาพที่ดี โดยไม่ย่อท้อที่จะฝ่าฟันไปให้ถึงคนที่ต้องการความช่วยเหลือ